เชื่อว่าหลายครอบครัวที่มีลูกน้อยวัยซน คงมีความคาดหวังว่าลูกของเรานั้นจะโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงสมวัย ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพทางจิตใจ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพจิตของลูกๆ ไม่ว่าทางบวกหรือทางลบ นั่นก็คือสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู การให้ความรักความเอาใจใส่ของคนภายในครอบครัวนั่นเอง ซึ่งจะช่วยให้ลูกๆ นั้น มีพื้นฐานทางจิตใจที่แข็งแรง และส่งผลต่อกระบวนการการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้น
ถ้าอยากให้ลูก ๆ ที่เรารักนั้นมีพัฒนาการเติบโตทางด้านจิตใจที่แข็งแรง ควรเริ่มจากสภาพแวดล้อม ที่แสดงให้ลูกๆ สัมผัสได้ถึงความรัก ความเอาใจใส่ ความเห็นอกเห็นใจ ความไว้วางใจ และความเข้าใจซึ่งกันและกัน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ลองเริ่มต้นด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการรับประทานอาหารพร้อมหน้ากันในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือถ้าทุกวันได้ก็จะยิ่งดีเลยค่ะ
วันนี้แม็กกี้ มีทริคที่จะช่วยให้ลูกน้อยของพวกเรา มีสุขภาพจิตดี เติบโตอย่างสมวัยง่ายๆ มาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลย!!
1. ให้เจ้าตัวน้อยมีส่วนร่วมในการคิดเมนูสำหรับมื้ออาหาร
วิธีนี้จะทำให้ลูกน้อยของเราได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการคิดเมนูต่างๆ และทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับรู้ถึงอาหารที่ลูกชอบ และไม่ชอบ เพื่อที่จะดัดแปลงเมนูต่างๆ ให้มีสารอาหารครบและทำให้ลูกๆ ของเรานั้นอยากที่จะทานอาหารมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
2. ช่วยจัดเตรียมอาหารในมื้อนั้น
ควรให้ลูกๆ ได้เข้าครัว ฝึกทักษะรอบตัว เพราะในห้องครัวนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถสอนเรื่องต่างๆ เช่น ความระมัดระวัง การมีสติอยู่กับตัวเอง การอดทนรอเพื่อให้ได้สิ่งที่ดี ซึ่งนั่นจะทำให้ลูกๆ ได้ฝึกทักษะที่ดีให้กับตัวเองได้
3. มอบหมายให้เจ้าตัวน้อยเป็นคนนัดหมายกับทุกๆ คนในครอบครัว
วิธีนี้ ลูกๆ จะใช้ความสามารถให้การเจรจาพูดคุยกับคนในครอบครัว และเป็นการสอนให้ลูกๆ นั้นรู้จักการตรงต่อเวลา
4. ให้เจ้าตัวน้อยเป็นผู้จัดเตรียมเครื่องดื่มเย็นๆ ชงง่าย
เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับทุกคนในครอบครัว แถมยังช่วยสร้างความภาคภูมิใจให้กับเจ้าตัวน้อยไปพร้อมๆ กันด้วย การให้ลูกได้บริการคนในครอบครัว เช่น การเสิร์ฟน้ำเย็นๆ สักแก้ว หรือเตรียมเครื่องดื่ม คุณพ่อคุณแม่ควรมีคำชมให้กับลูกๆ เพราะจะเพิ่มความภูมิใจให้กับตัวเด็ก
5. เปิดโอกาสให้เจ้าตัวน้อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน
เวลารับประทานอาหารเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและเล่าประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้พบเจอมาในแต่ละวัน เพื่อให้ลูกๆ นั้นกล้าที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ กับคุณพ่อคุณแม่ และทำให้เกิดความเป็นกันเองและไว้ใจที่จะเล่าได้ ซึ่งจะส่งผลดีกับตัวลูกเพราะคุณพ่อคุณแม่จะได้ทราบถึงรายละเอียดหรือปัญหาที่ลูกได้พบเจอมาในแต่ละวัน เพื่อปรับและแก้ไขได้ทัน อีกทั้งยังสามารถทำให้ลูกกล้าที่จะพูดถึงและได้รับบรรยากาศที่ดี อบอุ่น และความรักใคร่ของคนในครอบครัวอีกด้วยนะคะ
คุณพ่อคุณแม่ลองนำวิธีนี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ แนะนำว่าควรทำอย่างต่อเนื่องหรือบ่อยครั้งมากที่สุด เพื่อเพิ่มสุขภาพจิตใจที่ดี และเพิ่มพลังงานแง่บวกให้กับลูกน้อยของพวกเรา การที่รับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัวนั้น เจ้าตัวน้อยก็จะเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้คนในครอบครัวฟัง แม้ว่าจะโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้วก็ตาม ความเป็นกันเองที่อบอุ่นของครอบครัวนี่แหละค่ะ จะทำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ จะเห็นได้ว่าทุกกิจกรรมล้วนแต่เปิดโอกาสให้เจ้าตัวน้อยได้แสดงความคิดเห็น มีความรับผิดชอบผ่านงานต่างๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ได้มอบหมายให้ เพื่อเป็นการฝึกลูกน้อยให้เกิดความมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากขึ้น เมื่อเจ้าตัวน้อยได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้อง ได้รับความรัก คำชม และความเอาใจใส่จากครอบครัว ทำให้เขาเรียนรู้วิธีการ การจัดการปัญหา มีความรัก ความสามัคคี ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี เด็กๆ จะสามารถเผชิญปัญหาที่มากระทบได้อย่างเหมาะสม เป็นการปูพื้นฐานพัฒนาการ และการสร้างคุณค่าในตนเองให้กับเขาค่ะ คุณพ่อคุณพ่อลองนำวิธีที่กล่าวมานี้ ไปปรับใช้กันดูนะคะ