ถ้าจะพูดถึงวัตถุดิบคู่ครัวประเภทเนื้อสัตว์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แม่บ้านอย่างเราๆ ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “เนื้อไก่” เพราะเป็นเนื้อที่หาซื้อสะดวก ทานง่าย ปรุงเป็นเมนูอะไรก็อร่อย เด็กๆ ก็มักจะชื่นชอบเนื้อไก่มากกว่าเนื้อชนิดอื่นๆ เพราะเคี้ยวและย่อยง่าย เวลานำมาปรุงก็สุกได้อย่างรวดเร็ว แถมยังดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเนื้อส่วนอกที่ได้รับความนิยมในหมู่คนที่ต้องการดูแลร่างกายเพราะมีโปรตีนสูง ยิ่งทานคู่กับผักก็ยิ่งอร่อยได้สุขภาพมากๆ ดังนั้นวันนี้แม็กกี้มีเคล็ดลับจัดการกับเนื้อไก่มาฝากคุณแม่บ้านกันค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นเราไปอ่านต่อกันเลย...
วันนี้นะคะ แม็กกี้มี 3 เคล็ดลับมานำเสนอคุณแม่บ้าน กับวิธีจัดการกับเนื้อไก่ ให้สดใหม่พร้อมปรุงเมนูอร่อยๆ เพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีเคล็ดลับอะไรกันบ้าง?
1. การเลือกเนื้อไก่ ก่อนนำมาปรุง
เวลาคุณแม่บ้านไปเดินช้อปวัตถุดิบที่ตลาดนั้น แนะนำเลยค่ะว่าก่อนจะหยิบเนื้อไก่ใส่ตะกร้าลองดูก่อนว่า
• บริเวณหนังที่ติดกับเนื้อนั้นยังดูสดใหม่อยู่หรือเปล่า ต้องดูว่าสีสันยังดีอยู่ ไม่ซีดไป หรือมีสีที่ดูช้ำ เนื้อแน่น ไม่มีจุดเลือดกระจาย
• ลองกดลงตรงบนเนื้อไก่ ถ้ากดแล้วเนื้อไม่บุ๋มสีไม่ออกเขียวหรือม่วงคล้ำ จับดูแล้วไม่มีเมือกเหนียวติดตามหนังและเนื้อไก่ ไม่มีกลิ่นเหม็น ถือว่าใช้ได้ค่ะ
• แต่หากว่าคุณแม่บ้านต้องการซื้อไก่ทั้งตัวให้ดูที่อกเป็นหลักค่ะ ต้องดูที่อกแน่นๆ ไม่มีรอยช้ำบริเวณท้อง หรือดูที่ตาไม่ลึกโบ๋และต้องไม่ส่งกลิ่นเหม็นสารเคมีด้วยนะคะเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของคนทาน
2. วิธีดับกลิ่นคาวไก่
เนื้อไก่นั้นถ้าจัดการไม่ดีจะมีกลิ่นคาวได้ เมื่อคุณแม่บ้านซื้อเนื้อไก่มาแล้ว มาดูเคล็ดลับดับกลิ่นคาวไก่กันค่ะ
• ให้ใช้เกลือป่นครึ่งถุงมาทาให้ทั่วตัวไก่แล้วนวดแบบเบาๆ ทั้งด้านในและด้านนอก เพื่อเป็นการขจัดกลิ่นคาวอันไม่พึงประสงค์ออกไป
• หลังจากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง สัก 2-3 รอบกำลังดี เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าไก่ที่เราจะนำไปปรุงอาหารมีรสเค็มปนอยู่ แถมวิธีนี้ยังทำให้เนื้อไก่ของคุณแม่บ้านนิ่มและนุ่มกรอบเวลานำไปปรุงอาหารอีกด้วยนะคะ
3. วิธีเก็บเนื้อไก่ให้ถูกที่ ยืดอายุให้พร้อมปรุงเมนูอร่อย
เมื่อคุณแม่บ้านล้างทำความสะอาดเนื้อไก่ที่ได้ซื้อมาแล้ว ให้เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เพื่อไม่ให้เนื้อไก่โดนความเย็นจนมีสีคล้ำดูช้ำไม่น่ารับประทานและอาจทำให้เสียได้ง่าย การเก็บเนื้อไก่ในภาชนะที่มิดชิดยังช่วยให้อุณหภูมิภายในพอดีกับเนื้อไก่และป้องกันน้ำจากเนื้อไก่ไปปนกับเนื้อสัตว์ประเภทอื่น แนะนำเลยค่ะว่าควรเก็บเนื้อไก่ของคุณแม่บ้านไว้ในตู้เย็นแล้วควรแยกช่องเก็บผักและเนื้อสัตว์ไว้อย่างชัดเจน
เท่านี้ก็จะเก็บเนื้อไก่ให้สุดใหม่พร้อมปรุงเมนูอร่อยๆ แล้วค่ะ คุณแม่บ้านอย่าลืมที่จะใช้ทั้ง 3 เคล็ดลับนี้ เพื่อให้คุณมีเนื้อไก่ ที่สดใหม่ไปใช้ปรุงอาหารอร่อยได้อย่างมั่นใจมากขึ้นกันนะคะ